บริษัท เดอะวอฟเฟิล ซัพพลาย จำกัด เริ่มต้นดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ภายใต้แบรนด์ The Waffle เมื่อปี พ.ศ. 2547 โดยคุณสุทธิชัย และ คุณสุพรรณี พนิตนรากุล ที่มีใจรักและพรสวรรค์ในการลิ้มชิมรสชาติอาหาร และศึกษาค้นคว้าทดลองจนเกิดจินตนาการที่จะเปิดธุรกิจ วอฟเฟิล ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์มาเลย เริ่มจากการชอบกินขนม และพยายามหาขนมอร่อยทาน จนวันหนึ่งได้ทาน ขนมวอฟเฟิลของร้านเบเกอรี่แห่งหนึ่ง แล้วรู้สึกว่า ขนมนี้อร่อยจริงๆ ซื้อทานหลายต่อหลายครั้ง ก็ยังไม่รู้สึกเบื่อ เมื่ออยากทานขนมลักษณะนี้ ก็เลยนึกถึง วอฟเฟิล ของร้านนี้ก่อนทุกครั้งว่า อร่อยจริงๆ พร้อมๆ กับ คำว่า แพงจริงๆ ด้วย แต่เมื่อนึกถึงกลิ่นหอมกรุ่นๆ จากเตาเล็กๆ และความหวานนุ่มก็อดไม่ได้ จึงได้รู้ว่า ได้หลงเสน่ห์เจ้าวอฟเฟิลชิ้นน้อยนั่นเสียแล้ว คำว่าแพงจริงๆ ยังคงอยู่ในความรู้สึกตลอดเวลา “ขนมปังอะไรชิ้นเล็กนิดเดียวตั้ง 20-30 บาท” ทานชิ้นเดียวก็ไม่หายอยาก กิน 2 ชิ้นก็ 40-60 บาทเข้าไปแล้ว บ้านเราตั้ง 4 คน โอ้โห!! เป็นร้อยเชียว ทำอย่างไรจะได้ทานขนมอร่อยๆ แบบนี้ในราคาที่ซื้อได้ไม่เสียดายเมื่อต้องซื้อทานหลายคน จากความคิดเล็กๆ เมื่อปี พ.ศ. 2547 ของเราที่อยากทำธุรกิจเล็กๆ แต่มั่นคง พร้อมมีความสุขในการทำงาน ได้กลายมาเป็นแนวคิดในการทำธุรกิจแฟรนไชส์วอฟเฟิลที่เน้นความสุขที่ได้ก่อนรายได้ที่ดี จนปัจจุบันเรามีกว่า 200 สาขา ทั่วประเทศที่ประสบความสำเร็จตามแนวทางนี้ เราคิดถึงทุกฝ่ายเสมอทั้งผู้ซื้อที่ควรได้สินค้าที่คุณภาพดี เดอะวอฟเฟิล หอม อร่อย คงคุณภาพเสมอมาไม่เคยลดคุณภาพเลย ตลอดการทำธุรกิจของเราจึงทำให้เรามีลูกค้าประจำ มีแฟนพันธ์แท้ที่เป็นลูกค้าเรามาตลอด 10 ปี และเราคิดถึงผู้ลงทุนควรมีกำไรเหมาะสมไม่มากเกินไปจนไม่เป็นธรรมกับผู้ซื้อ แต่ก็ไม่น้อยจนไม่คุ้มค่าความทุ่มเท เราจัดสรรไว้พอเหมาะพอดีสำหรับทุกๆคน เรามีทีมงามมาตรฐานพร้อมให้บริการอย่างมืออาชีพ เพื่อเป้าหมายคือความสำเร็จของผู้ลงทุน เราทำทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานความเป็นธรรม เราคิดทุกอย่างให้เป็นเหตุผล ตอบทุกคำถาม บริการอย่างซื่อสัตย์ มาถึงวันนี้ เราคือ เดอะวอฟเฟิล วอฟเฟิลที่ขายดีที่สุดในประเทศไทยและเรากำลังทำให้เดอะวอฟเฟิล เป็นวอฟเฟิลที่ขายดีที่สุดทั่วโลก

“ความอร่อยของขนมวอฟเฟิล คือ แป้งโยเกิร์ต ซึ่งค่าวัตถุดิบในการผลิต ถือเป็นต้นทุนหลักของขนมชนิดนี้ ถ้าเราจะลดต้นทุนด้วยการลดหรือเปลี่ยนวัตถุดิบ แน่นอนว่าคุณภาพขนมต้องแย่ลงแน่ๆ ในที่สุดธุรกิจก็จะไปไม่รอด ดังนั้น ดิฉันเลือกที่จะใช้แป้งเหมือนกับ “เดอะวอฟเฟิล” ทุกประการ แต่ลดปริมาณเนื้อแป้งลง แล้วใส่ไส้ ซึ่งต้นทุนถูกกว่าไปแทน ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้ “วอฟเฟิล คูล” เป็นอีกทางเลือกทั้งผู้บริโภค และผู้สนใจลงทุน โดยไม่ต้องแข่งกันเองกับแบรนด์เดิม”