จุดขายของ แฟรนไชส์ชานมไข่มุก “ Kancha “ อยู่ที่รูปแบบของการตกแต่ง สีสันของร้านสดใสสวยงาม มีตัวการ์ตูนลิงน้อยประดับไว้บนแก้ว ซึ่งก็เพื่อสร้างการจดจำและแทนความหมาย ขอบคุณอย่างจริงใจ ส่วนการขยายแบรนด์แฟรนไชส์ชานมไข่มุกนั้นคุณจารุวรรณ นั้นก็สร้างจุดต่างที่ว่าขยายไปในต่างจังหวัดก่อนเพราะหากจะขยายในกรุงเทพฯนั้นคงทำตลาดยากเพราะคู่แข่งเยอะ การที่ขยายไปต่างจังหวัดก่อนก็เพื่อที่จะให้โด่งดังก่อนแล้วค่อยขยับตัวมาในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ต่างจังหวัดก็มีกำลังซื้อสูง คู่แข่งก็ต่ำ การไปเปิดแฟรนไชส์ไข่มุกที่นั่นจึงสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่าย ปัจจุบันแฟรนไชส์ชานมไข่มุก “ Kancha “ มีสาขาขยายไปแล้วกว่า 20 สาขาในต่างจังหวัดพร้อมกับพื้นที่ในกรุงเทพฯอย่าง สนามบินดอนเมืองและย่านอโศก ส่วนที่ยอดขายดีและสาขากระจายไปได้ทั่วนั้นก็มาจากชานมไข่มุก Kancha นั้นมีคุณภาพดี ปัจจุบันมีเมนูให้ลูกค้าสามารถเลือกกว่า 30 เมนู เช่น ชานมกาแฟ , ชานมเผือก , ชาเขียวนม , ชาสตรอเบอรี่ เป็นต้น สำหรับหัวใจหลักของ แฟรนไชส์ชานมไข่มุก “ Kancha “ นั้นก็อยู่ที่การเลือกใช้ชาอู่หลงเกรด A มาชงซึ่งชานี้ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของดอกไม้หอมและอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งจะผ่านการต้มด้วยวิธีเฉพาะ รวมถึงการควบคุมน้ำชาต้มที่ใช้ชงในระยะเพียง 4 ชั่วโมง เท่านั้นหลังจากนี้ต้องทิ้งและต้มใหม่อีกครั้งเพื่อให้ได้ชาไข่มุกที่ชงสดใหม่ รสชาติกลมกล่อมแบบแก้วต่อแก้ว ซึ่งทั้งหมดนั้นจะเป็นสูตรชงชาที่ทำให้ แฟรนไชส์ชานมไข่มุก “ Kancha “ นั้นไม่เหมือนใคร อกจากที่มีชานมไข่มุกเป็นหลักในร้านแล้ว ก็ยังมีเมนูเสริมอย่าง วอฟเฟิล ที่สามารถทำและวางขายหน้าร้านได้อีกด้วย โดยการที่คุณคุณจารุวรรณนั้น นำวอฟเฟิลมาเสริมด้วยก็เนื่องจากการที่ได้ชิมและถูกใจจึงตัดสินใจเอามาลงขายเสริมในแฟรนไชส์ โดยสูตรนี้เป็นสูตรวอฟเฟิลจากประเทศญี่ปุ่น จึงมีความโดดเด่นที่ว่าหอมหวาน กลมกล่อม กรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยท็อปปิ้งตามต้องการ ซึ่งหากได้ทานคู่กับชานมไข่มุกละก็อร่อยลงตัวไม่เหมือนใครเลยครับ สำหรับคนที่สนใจแฟรนไชส์ชานมไข่มุกนั้นทางคุณจารุวรรณ ก็มีให้เลือกลงทุนอยู่ที่ 800,000 – 1,200,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับทำเล